1.สนใจกับความสวยงามในดีไซต์มากเกินไป
ผู้คนส่วนใหญ่เลือกเฟอร์นิเจอร์กันที่ภาพรวมภายนอกก่อนจนลืมคำนึงถึงการใช้งานที่เหมาะสมไป ทางที่ดีการเลือกเฟอร์นิเจอร์ให้เหมาะสมจะต้องเกิดความสมดุลกันระหว่างประโยชน์ใช้สอยภายในบ้านไปพร้อมๆ กับความสวยงามที่ลงตัว หลักการสำคัญคือเลือกชิ้นงานที่ออกแบบมาให้คุ้มค่ากับการใช้สอยก่อน รองลงมาค่อยคัดเลือกความสวยงามที่ต้องการ จะได้คุ้มค่ากับราคาและไม่ซื้อมาให้รกบ้าน กลายเป็นทิ้งเปล่าไปอย่างน่าเสียดาย
2.ละเลยการตรวจสอบเฟอร์นิเจอร์ก่อนตัดสินใจซื้อ
บางคนเห็นเฟอร์นิเจอร์ที่ตัวเองต้องการ ลงตัวทั้งดีไซต์และรูปลักษณ์ มองด้วยตาเปล่าก็รู้สึกถึงความชอบส่วนตัวกันแบบเต็มที่ ตัดสินใจซื้อในทันทีเพราะคิดว่ามันใช่แล้ว แต่เมื่อซื้อมาแล้วกลับไม่ถูกใจ กลายเป็นความผิดหวังที่ภาพลักษณ์ภายนอกไม่ได้บ่งบอกถึงการใช้งานที่ดีได้อย่างที่ต้องการ ดังนั้นทางที่ดีควรตรวจสอบการใช้งานของเฟอร์นิเจอร์ก่อนซื้อทุกครั้ง โดยเฉพาะเตียง ตู้เสื้อผ้า หรือของใช้ที่เป็นลิ้นชักต่างๆ มองหาตำหนิ ความลื่นไหล และหากเป็นเนื้อไม้ก็ควรดูชนิดของไม้ว่าเป็นชนิดไหน มีร่องรอยที่ถูกแมลงเจาะอยู่ด้วยหรือไม่
3.ไม่วัดสัดส่วนของเฟอร์นิเจอร์ให้เข้ากับห้องก่อน
คนที่เลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์บางชิ้นที่มีขนาดใหญ่ แต่มองข้ามการวัดสัดส่วนที่เหมาะสมกับพื้นที่ไป โดยเฉพาะตู้เสื้อผ้าหรือตุ้เก็บของที่มีความสูงมากๆ แต่ระดับความสูงของห้องไม่ค่อยมากนัก สิ่งที่จะตามมาคือไม่สามารถจัดวางเฟอร์นิเจอร์ให้พอดีกับตัวห้องได้ หรือบางคนซื้อเฟอร์นิเจอร์ไปหลายๆ ชิ้น กลับไม่สามารถจัดวางให้ลงตัว อีกทั้งอาจจะทำให้ตัวบ้านดูแคบลงจนกลายเป็นไม่น่าอยู่อีกด้วย ดังนั้นทางที่ดีควรทำการวัดขนาดห้อง ทั้งความกว้างและความสูงก่อน แล้วค่อยไปเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ให้มีขนาดลงตัวหวังว่าคำแนะนำเหล่านี้ จะช่วยเป็นส่วนหนึ่งที่จะทำให้บ้านของเพื่อนๆ ดูสวยเริ่ด และคุ้มค่ากับเฟอร์นิเจอร์ที่ซื้อไปตกแต่งบ้านได้อย่างสมบูรณ์แบบกันนะคะ
ภาพประกอบจาก http://www.kaewsaiidea.com/